ps. เหมือนถ้าอ่านในคอมพ์ตัวหนังสือจะเด้งนะคะ ยังไงอ่านในโทรศัพท์จะได้อรรถรสกว่าค่า
สุดท้ายสิ่งที่คนทั้งคู่ทำก็คือนอนกอดกันอย่างที่ว่าจริงๆบนเตียงของเตนล์นั้นร่างบางนอนหันหน้าเข้ากำแพงด้วยท่าถนัดโดยมีแทยงสวมกอดจากด้านหลัง
สุดท้ายสิ่งที่คนทั้งคู่ทำก็คือนอนกอดกันอย่างที่ว่าจริงๆบนเตียงของเตนล์นั้นร่างบางนอนหันหน้าเข้ากำแพงด้วยท่าถนัดโดยมีแทยงสวมกอดจากด้านหลัง
แค่นี้ก็มีความสุขจนแทบจะสำลักออกมาอยู่แล้ว
“เรากลับมานอนด้วยกันแบบเดิมไม่ได้หรอครับ” เป็นเด็กหนุ่มที่เปิดบทสนทนาขึ้นหลังจากปล่อยให้ผู้ใหญ่ทั้งกอดทั้งหอมเขาอยู่นานสองนาน
“พี่นึกว่าเราอยากมีพื้นที่ส่วนตัวซะอีก” ถึงจะตอบคำถามแต่ตอนนี้ริมฝีปากของเขากลับคลอเคลียอยู่บริเวณหัวไหล่ของคนตั้งคำถาม
“ผมอยากอยู่กับพี่มากกว่า อย่างน้อยก็ก่อนไป..” น้ำเสียงตัดพ้อมาจากใจจริงไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด และนั่นก็น่ารักพอที่จะให้แทยงกดจมูกลงบนแก้มนิ่มอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของคืนนี้ โลกของชิตพลมันเต็มไปด้วยความน่ารัก
“ค่ะ งั้นต่อไปนี้พี่จะมานอนกับหนูทุกวันเลยดีไหมคะ” แกล้งก่อกวนด้วยสรรพนามที่ต่างไปจนเห็นว่าคนในอ้อมกอดมีอาการเขินอีกครั้ง ชีวิตของชายวัยสามสิบไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้แล้วจริงๆ
“หนูเหนออะไรกันเล่า..”
ไหนจะคอยเขินไหนจะคอยจับมือซนไม่ให้ลูบเข้าในใต้เสื้ออีก นี่มันเป็นการนอนกอดกันเฉยๆประเภทไหนเนี่ย เตนล์ชักจะเหนื่อยแล้ว ทำไมพี่แทยงดูอยากมีส่วนร่วมกับร่างกายของเขาเหลือเกิน
“อย่าไปให้ใครทำแบบนี้นะ ห้ามเด็ดขาดเลยนะรู้ไหม” คนแก่กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหูจนเด็กน้อยต้องเอียงคอเพราะจั้กจี้
นี่ก็ทั้งฟัด ทั้งหอม ทั้งจับมาทั้งตัวแล้ว ทำไมพี่แทยงยังไม่พออีก แล้วใครจะกล้าลามกมาทำแบบนี้กับเตนล์นอกจากพี่
“พี่เป็นห่วงผมหรอ”
“ตอนนี้หวงด้วย”
แกล้งหลับไปเลยได้ไหม นี่อีกคนจะรู้ไหมนะว่าเป็นฝ่ายเขินและต้องกลั้นยิ้มไปด้วยมันเหนื่อย ชิตพลเหมือนจะละลายไปกับเตียงนอนแล้ว
ยิ่งสัมผัสจากมือสากล่วงล้ำเข้าในใต้เสื้อเตนล์สำเร็จเด็กหนุ่มก็ยิ่งเกร็งไปหมด จากตอนแรกที่คิดว่าอีกฝ่ายแกล้งเล่น แต่ตอนนี้เตนล์คิดว่าน้ำหนักมือของพี่แทยงเปลี่ยนไป มันไม่ใช่แค่การจับนิดจับหน่อยอย่างที่ผ่านมา อีกคนตั้งใจเน้นปลายนิ้วลงที่บริเวณช่วงอกที่อ่อนไหวต่อความรู้สึก
“อือ… พี่ครับ”
เสียงลมหายใจหนักๆรดต้นคออยู่ด้านหลังทำเอาเด็กหนุ่มเสียววาบไปทั้งตัว ในขณะที่มือนึงยังวนเวียนอยู่กับยอดอกใต้เสื้อ อีกมือก็จัดการลูบล้วงเข้าไปในขอบกางกางได้สำเร็จ
“อะ..” ได้แต่หลับตากัดปากเมื่อถูกปรนเปรอให้ทั้งส่วนล่างและบน เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงอุ้งมือที่เค้นคลึงส่วนอ่อนไหวของเขาจนมันเป็นการเป็นงานขึ้นมา
“ฮื่อ…” ถึงอีกคนจะหันหลังให้แต่แทยงก็รู้ว่าเจ้าคนขี้เขินจะมีสีหน้าแบบไหนในเวลานี้ ยิ่งเขาขยับมือขึ้นลงเร็วเท่าไหร่คนในอ้อมกอดก็ยิ่งดิ้นขลุกขลักเพราะความเสียวซ่าน และมันมักจะมาพร้อมเสียงครางกระเส่าที่ปลุกความดิบที่อยู่ในตัวของชายหนุ่มได้อย่างดี
“อา.. พี่ครับ ฮะ..” เสียงหวานๆยังดังต่อเนื่องเพราะเขาไม่หยุดแถมยังเร่งมือให้เร็วขึ้นด้วยซ้ำ
อดไม่ไหวที่จะซุกหน้ากับซอกคอขาวแล้วสูดดมเอากลิ่นเฉพาะกายเข้าปอดให้ชื่นใจ ยัยแป้งเด็กเคลื่อนที่ของพี่ น่ารักเกินไปแล้ว
“อ๊ะ..” หลุดเสียงสูงออกมาเพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะไปถึงที่จุดสุดยอดของมวลอารมณ์ สองมือปัดป่ายไปตามที่นอน คว้าอะไรมาจับได้ก็จิกลงไปแน่นอย่างเกร็งตัว
“อื้อ” สิ้นเสียงสุดท้ายพร้อมกับความอุ่นชื้นที่เปรอะเต็มมือของแทยง เด็กน้อยในอ้อมกอดหอบแฮ่กโดยที่ไม่รู้ชะตากรรมต่อไปของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ในที่สุดก็ห้ามใจตัวเองไม่อยู่ต้องพลิกคร่อมรางบางจนได้ จากมุมนี้มองเห็นหน้าเตนล์ได้ชัดขึ้น และจากการปฎิบัติเมื่อสักครู่ทำให้สายตาของคนใต้ร่างดูยั่วขั้นสุดยอดแบบไม่รู้ตัว
ดวงหน้าขาวขึ้นสีแดง ริมฝีปากสีเชอร์รี่ช้ำและเจ่อนิดหน่อยจากการกัดปากเป็นเวลานาน ไหนจะตาเรียวที่ดูอ้อนวอนให้เขาลงมือทำเรื่องเสียหายนี่เร็วๆอีก
คนแก่ไม่รอให้เสียเวลาไปกว่านี้ จัดการบรรจงดึงกางเกงขาสั้นลงพร้อมชั้นในจนเผยให้เห็นส่วนล่างทั้งหมดของคนในความดูแล
“ฮื่อ…” เจ้าของเรือนร่างอายจนปิดหน้า แต่ไม่ใช่กับแทยง เขาใช้เพียงมือเดียวสองขาก็แยกออกจากกันได้ไม่ยาก ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มที่ไม่ได้มีเพศสัมพันมาเนิ่นนานมือไม้สั่นนิดหน่อย
“..อือ” หลุดเสียงออกมาอีกรอบเท่าไหร่แทบจำไม่ได้ เมื่อริมฝีปากของคนที่รักบรรจงดูดเม้มบริเวณต้นขาด้านในของเตนล์ ไล่จนขึ้นมาถึงหน้าท้อง ซึ่งเด็กหนุ่มก็ทำได้แค่คอยเลิกเสื้อขึ้น ให้ริมฝีปากนุ่มไล้มาถึงเนินอกในที่สุด ก่อนแทยงจะใช้ปากนั้นครอบกับส่วนอ่อนไหวด้านบนอย่างยอดอกแล้วออกแรงตวัดปลายลิ้นอย่างชำนาญจนคนถูกกระทำมีเสียงตอบโต้เป็นระยะ
คนแก่ลามกแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า
“อะ..” อีกความรู้สึกนอกจากส่วนบนคือส่วนล่างที่เปิดเผยไว้ เตนล์อยู่ในท่าตั้งขา องศากว้างพอดีที่จะให้แทยงใช้นิ้วเรียวเบิกเข้าในช่องทางสีหวานเป็นอันดับแรก
นี่ครั้งแรกของเด็กน้อย เขาต้องใจเย็นๆให้มากที่สุด ระหว่างที่พยายามแทรกนิ้วเข้าไปก็ไม่ลืมบรรเทาความตระหนกด้วยการเพิ่มความเสียวบริเวณยอดอก ซึ่งแทยงก็ทำได้ดีในทั้งสองอย่าง
จนกระทั่งนิ้วที่สอง
“โอ๊ย..” เพียงแค่เสียงเดียวก็มากพอที่จะให้ชายหนุ่มหยุดกิจกรรมทุกอย่าง
“เจ็บมากหรอ” เงยหน้าขึ้นมองเด็กน้อยที่เบะปากเป็นคำตอบ น้ำใสแอบมาเอ่อคลออยู่หางตาเพราะสัมผัสที่ทำให้หน่วงเมื่อครู่
“ถ้าเราบอกให้พอ พี่ก็จะหยุด” นาทีนี้จะมามัวหน้ามืดไม่ได้ เขาต้องคิดถึงร่างกายและจิตใจอีกคนให้มากเข้าไว้
เด็กน้อยมีแววตาสั่นไหว ทั้งหวาดกับความรู้สึกเมื่อครู่
แต่พอมองเห็นสีหน้าเป็นกังวลของพี่แทยงแล้วก็…
“พี่ครับ”
“หืม”
“พี่จำวันแรกที่เราเจอกันได้หรือเปล่า”
“ตอนนี้ก็ยังไม่ลืม” ตอบพร้อมกับเขยิบตัวขึ้นให้มองใบหน้าของคนที่เขารักมาตลอดได้ถนัด ถ้าเตนล์จะพอแค่นี้แทยงก็พร้อมหยุด
“อืม.. พี่รู้ไหมอะไรทำให้วันนั้นผมถึงยอมปล่อยมือแม่มาหาพี่” เด็กน้อยเงยจ้องผู้ใหญ่ตาแป๋ว ถึงอีกสองปีเตนล์จะอายุยี่สิบแล้ว แต่กับผู้ปกครองเขาอยากทำตัวเป็นเด็กแปดขวบตลอดไป
“ที่ห้องพี่มีขนมเยอะมาก อะไรแบบนี้หรือเปล่า” ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไรผมที่ลงมาปรกหน้าผากมนออกเบาๆอย่างเอ็นดู ถึงตอนนี้เจ้าแก้มย้วยๆจะโครงหน้าชัดขึ้นจนแทบไม่เห็นเนื้อแก้มแบบเดิม แต่มันก็น่ารักสำหรับชายหนุ่มอยู่ดี
“เปล่าหรอกครับ” เด็กน้อยเผยรอยยิ้มนิดหน่อยยามที่ฝ่ามือของผู้ใหญ่เลื่อนมากอบกุมใบหน้าเขาเอาไว้
“อันที่จริงแม่พูดเป็นภาษาไทยกับผมว่า..” จ้องเข้าไปยังนัยตาสีดำสนิทของคนต่างวัยอย่างมีความหมาย นัยตาของคนที่มอบความอบอุ่นและการดูแลเขามาตลอดสิบปี
“..พี่ชายคนนี้จะทำให้ลูกปลอดภัย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ให้เชื่อใจเขา อย่างที่เชื่อใจแม่เลยนะ” ถอดคำพูดที่ยังจำขึ้นใจให้อีกคนได้ฟังในภาษาที่ต่าง เพราะเหตุนี้เตนล์ถึงยอมปล่อยมือจากแม่ในวันนั้น เพราะได้รับคำยืนยันว่าเขาจะปลอดภัย
แล้วก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆจนวินาทีนี้
“...”
“งั้นผมเลือกเชื่อใจพี่แทยงแล้วกันนะครับ” ยกมือบางขึ้นทาบกับสันกรามคมบ้าง ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ เขามั่นใจว่าผู้ปกครองคนนี้จะไม่ปล่อยให้เตนล์เป็นอันตรายเด็ดขาด
“เด็กน้อย..” อุทานออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับความบริสุทธิ์ทางความรู้สึกที่เด็กคนนึงมอบให้ มือที่กอบกุมใบหน้าอยู่เลื่อนลงจับปลายคางมนให้เชิดขึ้นในองศาพอดี ก่อนจะทาบทามความอุ่นร้อนลงไปอย่างแผ่วเบา และตั้งใจให้นุ่มนวลที่สุด
เขาจะอ่อนโยนกับคนใต้ร่างนี้ให้สมกับที่ถูกไว้วางใจ
สัมผัสนุ่มลึกจากริมฝีปากยังคงเรียกให้หัวใจของเด็กน้อยเต้นระส่ำระส่าย มันรู้สึกดีเสียจนอยากให้พี่แทยงทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องหยุด ไม่ต้องให้เขาได้พักหายใจ
มือไม้สะเปะสะปะถูกรวบขึ้นมาคล้องคอคนบนร่างไว้เพื่อให้ที่พักพิง เพราะหลังจากนี้เตนล์อาจจะต้องทนรับอะไรต่ออะไรมากมายสักหน่อย
“อือ..” เด็กน้อยหอบจนอกกระเพื่อมหลังจากผู้ใหญ่ละจูบอันเนิ่นนานออกพร้อมกับไล้ริมฝีปากไปตามกรอบหน้าของเขา ความรู้สึกอุ่นชื้นยังละลงมาถึงซอกคอขาวเนียนอีกต่างหาก เตนล์เอียงคอตามสัญชาตญาณให้อีกคนได้ซุกลงถนัด เด็กน้อยไม่รู้ว่านั่นเป็นการอนุญาตอ้อมๆให้ผู้ใหญ่ฝากฝังร่องรอยสีชมพูเล็กๆไว้
“อา..”
รู้สึกดีไปหมดไม่ว่าพี่แทยงจะสัมผัสที่ส่วนไหนของร่างกาย ยิ่งริมฝีปากนั้นไล่จูบไปจนถึงหัวไหล่เตนล์ก็ยิ่งชอบ อยากให้จูบทั้งตัวเลย
เหมือนรู้ใจ เพราะที่ชายหนุ่มทำคือการเลิกชายเสื้ออีกฝ่ายขึ้นแล้วบรรจงพรมจูบมาตั้งแต่เนินอก ผ่านช่วงลอนกล้ามท้องอ่อนๆที่กระเพื่อมตามจังหวะหายใจ ลงมาจนถึงใต้สะดือ และส่วนเปิดเผยที่ถูกปลดพันธนาการไปตั้งนานแล้ว
พอถึงตรงนี้ทั้งสองคนก็เป็นกังวล แต่คนที่นอนตั้งขาอยู่ดูจะตื่นตระหนกที่สุด
“...”
แล้วสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเกิดก็เกิดเมื่อแทยงตั้งใจทาบริมฝีปากลงกับช่องทางสีหวานอย่างไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย
“อื้อ..พี่ครับ.. สกปรก” ถึงจะรู้สึกวาบหวิวบริเวณช่องท้องเพราะสัมผัสตรงส่วนนั้นแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้ให้ผู้ปกครองเสียเปรียบ ส่งเสียงเตือนพร้อมเอื้อมมือลงดันศรีษะเบาๆอย่างเกรงใจ
แทยงไม่ตอบแต่ยังคงบดริมฝีปากกับบริเวณนั้นอย่างไม่ลดละ เพราะตั้งว่าจะให้มันชื้นเสียก่อนเขาถึงจะกระทำการขั้นต่อไป และเมื่อปากทางเฉอะแฉะจนได้ที่ชายหนุ่มก็ใช้นิ้วกลางสอดเข้าไปก่อน เขาเบามือที่สุด พลางเงยขึ้นสังเกตสีหน้าเด็กน้อยไปด้วยอย่างระวัง
“อ๊ะ”
เตนล์อึดอัดเล็กน้อยแต่ยังพอทนได้ เด็กหนุ่มแทบอยากจะเอาหมอนมาปิดหน้าตัวเองเมื่อรู้สึกว่านิ้วเรียวที่แทรกเข้ามานั้นวนไปมารอบๆผนังด้านใน
“อือ..”
จากรู้สึกอึดอัดก็เริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส ไม่นานนักเด็กก็พร้อมสำหรับนิ้วที่สอง และสามตามลำดับ
“ฮื่อ..”
ร่างกายนั่นบิดเร้ายั่วยวนแทยงเสียจนเขาอยากชำเราเด็กคนนี้ให้ร้องไห้เสียเลยแล้วค่อยมาโอ๋ทีหลัง
แต่ชายหนุ่มต้องรักษาสัญญา เขาจะไม่ทำทุกอย่างพังอีก ถึงส่วนแข็งขืนใต้กางเกงมันจะคัดค้านก็ตาม
“พี่...อื้อ”
ไม่นานเกินรอเด็กน้อยก็คุ้นชินกับสามนิ้วที่ขยับอยู่ในร่างกายเพื่อเบิกทาง แทยงจึงค่อยถอนทั้งหมดนั้นออกมาและยันตัวลุกขึ้นนั่ง
แล้วรูดซิปกางเกงตัวเองลง
เด็กน้อยเบือนหน้าหลบอย่างขลาดเขิน พยายามไม่สนใจสิ่งที่นูนออกมาตามแนวชั้นในของคนด้านบน ใครเค้าจะมามองของคนอื่นได้เฉยๆแบบพี่แทยงกันล่ะ
หลังจากรูดซิปและจัดการให้สิ่งนั้นโผล่พ้นออกนอกกางเกงได้ชายหนุ่มก็โน้มตัวลงมาคร่อมเด็กน้อยไว้ในท่วงท่าเดิม ในองศาที่เหมาะสม
กดริมฝีปากบนหน้าผากมนอย่างสร้างความมั่นใจระหว่างทำให้สองขาเรียวแยกออกกว้างขึ้น
“พี่รักเธอ จนตอนนี้ก็ยังรัก ต่อจากนี้ไปก็จะรักเธอเหมือนเดิม..”
เด็กน้อยพยักหน้าตอบพร้อมกระชับวงแขนที่คล้องคออยู่ให้แน่นขึ้น เผยอริมฝีปากรับจูบหอมหวาน ก่อนจะรู้สึกอุ่นร้อนที่ปากทางช่วงล่าง ตามมาด้วยความรู้สึกอึดอัด และมากไปกว่านั้นคือมันเจ็บ
“อื้อ..อึก”
แต่ยิ่งจุกเท่าไหร่ริมฝีปากของเด็กน้อยก็ถูกดูดดุนเพื่อเบนความสนใจมากเท่านั้น จนกระทั่งรู้สึกว่าความแข็งขืนถูกส่งเข้ามาภายในตัวเตนล์จนสุด แทยงถึงยอมละริมฝีปากออก
น้ำใสเอ่อคลอที่บริเวณหางตาอีกครั้ง เด็กน้อยจุกจนพูดไม่ออกแต่ก็กัดฟันอดทนเพื่อให้มันผ่านไป
“ผมรักพี่… รักมากที่สุดเลย” พูดทั้งที่ยังหายใจแรงก่อนจะถูกพรมจูบซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา ส่วนล่างที่ยังเชื่อมกันอยู่เกิดขึ้นเพราะความยินยอมและความรักของคนทั้งคู่
แทยงขอบคุณตัวเองที่อดทนจนถึงวินาทีนี้
เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยผ่อนลมหายใจได้ปกติเขาจึงเริ่มขยับช่วงล่างของตัวเองให้ได้ทำงานบ้าง
“อะ..อ๊ะ” จากความจุกแน่นกลายเป็นสัมผัสเสียวซ่านทุกครั้งที่สิ่งนั้นขยับเข้าออกช้าๆ เนิบนาบแต่เย้ายวนให้คล้อยตามที่สุด
แทยงจะสติเตลิดเปิดเปิงก็เพราะเสียงกระเส่าจากคนใต้ร่างและสีหน้าสุดยั่วเนี่ยแหละ ชิตพลรู้ตัวไหมว่าการเผยอปากพร้อมขมวดคิ้วไปด้วยนี่มันมันน่าย่ำยีแค่ไหน
___
“อื้อ!”
อ่อนโยนได้ไม่นานก็ต้องแหกทุกกฎของกันและกันแล้วเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นให้มากขึ้นตามอารมณ์ที่ปะทุเดือดให้ทัน
“พี่ครับ..เร็วอีก.. อื้ม”
แทยงรุนแรงไปเองเสียคนเดียวเมื่อไหร่ ในเมื่อตั้งแต่คนใต้ร่างจุดไฟติดก็ออกปากสั่งให้เขาเพิ่มจังหวะสอดใส่ให้เร็วขึ้นไม่หยุด ไหนจะรอยจากเล็บที่ฝากฝังอยู่ตามต้นคอและหัวไหล่ของเขาอีก เขาไม่ก้มไปกัดริมฝีปากนิ่มๆนั้นแก้แค้นก็ดีเท่าไหร่แล้ว
“อึ่ก..อะ พี่.. ฮื่อ”
ความเร็วสั่งได้นั้นสาแก่ใจเด็กหนุ่มเหลือเกิน ยิ่งได้รู้สึกว่าแรงสั่นสะเทือนกระทบถึงเตียงจนมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดเด็กหนุ่มยิ่งรู้สึกดี
“อ๊า..”
นี่เตนล์เป็นคนบ้าไปแล้วใช่ไหม ทำไมถึงคิดว่าใบหน้าของพี่แทยงหล่อขึ้นเป็นสิบเท่าเพียงเพราะมองมาด้วยสายตาที่อยากจะขย้ำเขาใจจะขาดแบบนั้น
เสียงพึมพัมแทบไม่เป็นศัพท์บอกว่าเด็กใต้ร่างนี่สวยมากแค่ไหน ย้ำคำว่ารักแทบจะทุกครั้งที่ขยับเอวอย่างหื่นกระหาย
แต่ในบรรดาทั้งหมดมีอยู่หนึ่งประโยคที่เด็กหนุ่มจับใจความได้
“อยากให้ขยับเร็วกว่านี้ก็ไม่เป็นพี่น้องกันแล้วนะครับ..”
____